วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

บทที่ 1
บทนำ

ความเป็นมา และความสำคัญของปัญหา
ตอนนี้ประเทศไทยกำลังพัฒนาในด้านต่างๆ และมีเทคโนโลยีต่างๆเพิ่มขึ้นมากมาย และเป็นยุคไร้พรมแดนของการสื่อสาร ไม่ต้องเดินทางมาหากันแต่ก็สามารถเห็นหน้ากันได้ผ่าน Internet แต่อย่างไรการเรียนการสอนก็ยังต้องอาศัยการเห็นหน้ากันจริงๆ เพื่อให้เข้าใจในเนื้อหาการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น นักเรียนจึงต้องเดินทางมาโรงเรียน และการเดินทางมาโรงเรียนก็มีหลากหลายวิธี
ในตอนเช้าดิฉันมักเห็นเพื่อนๆเดินทางมาโรงเรียนด้วยวิธีการต่างๆ  ทำให้เกิดสงสัยว่าเพื่อนๆ ม.4 จะเดินทางมาโรงเรียนโดยวิธีการใดมากที่สุด จึงจัดทำแบบสำรวจการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนชั้น ม.4 ขึ้น เพื่อสำรวจว่านักเรียนเดินทางมาโรงเรียนโดยวิธีการใดมากที่สุด

กลุ่มเป้าหมาย
            นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 100 คน แบ่งเป็น นักเรียนหญิง 50 คน นักเรียนชาย 50 คน        
                                                                                              
จุดมุ่งหมายของการศึกษาค้นคว้า
            มุ่งเน้นการศึกษา เรื่องวิธีการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า
            นักเรียนเดินทางมาโรงเรียนโดยวิธีการนั่งรถสองแถวมากที่สุด


เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า
            แบบสำรวจ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการศึกษาค้นคว้า
            1.ได้รับทราบวิธีการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
            2.สามารถนำข้อมูลที่ได้มาทำสถิติของการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้




บทที่ 2

บทที่2

เอกสารที่เกี่ยวข้อง


               การสำรวจว่านักเรียนโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ เดินทางมาโรงเรียนโดยวิธีการใด  ผู้ศึกษาได้ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้

              1. การเดินทาง                                 2. มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
3. รถเมล์ของ ขสมก.                       4.รถรับ-ส่ง นักเรียน                                                    
5.รถส่วนตัว                                    6.เดินเท้า                                                          
การเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียน
การบริการความปลอดภัยในการเดินทางไป-กลับโรงเรียน
     การจัดบริการความปลอดภัยในการเดินทางไป-กลับโรงเรียน ควรพิจารณา คือ การจัดบริการเรื่อง การเดินทางไป-กลับโรงเรียน และการจัดบริการเรื่องการใช้รถ

     การจัดบริการเรื่องการเดินทางไป-กลับโรงเรียน    เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางไป-กลับโรงเรียนของนักเรียน ทางโรงเรียนควรดำเนินการดังนี้ 
     1. การจัดทำเส้นทางการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด ครูและนักเรียนช่วยกันวางแผนกำหนดเส้นทาง มาโรงเรียน เขียนแผนที่บริเวณรอบโรงเรียน หรือให้นักเรียนเขียนแผนที่ชุมชน นักเรียนช่วยกำหนดเส้นทาง ที่ปลอดภัยที่สุดจากบ้านของตนมาโรงเรียน โดยเลือกเส้นทางที่มีการจราจรน้อยที่สุด ละเดินข้ามถนนในช่วง สัญญาณไฟเขียวและสัญญาณให้รถหยุด เมื่อจัดทำแผนที่กำหนดเส้นทางเดินทางเท้าเรียบร้อยแล้ว โรงเรียนควรส่งแผนที่ไปให้ทางบ้านหรือผู้ปกครอง เพื่อจะได้ศึกษา และรับรู้การเดินทางของนักเรียน โดยผู้ปกครองจะต้องเซ็นต์ชื่อรับทราบ และส่งกลับมาให้โรงเรียนด้วย

     2. การใช้ธงนำกลุ่มนักเรียน เมื่อกำหนดเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุดในการเดินทางแล้ว ทางโรงเรียนควร จัดให้มีการใช้ธงนำกลุ่มนักเรียนเวลาเดินทางเท้าไป และกลับโรงเรียน ซึ่งธงที่ใช้อาจจะใช้สามเหลี่ยม ขนาดเล็กมีสีเข้มมองเห็นได้ชัดเจน เช่น สีแดง  สีเหลืองเข้ม เป็นต้น สำหรับวิธีการใช้ธงนำกลุ่มนักเรียนนั้น มีดังนี้

     - ใช้ธงนำกลุ่มนักเรียนที่มีบ้านไปทิศทางเดียวกัน
     - ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มถือจะต้องได้รับการคัดเลือกและแนะนำการปฏิบัติก่อนการใช้ธง
     - ก่อนกลับบ้านหัวหน้ากลุ่มจะต้องมารับธงจากครูเวร และนำธงไปตั้งเป็นหัวแถนนักเรียนในกลุ่ม
     - หัวหน้ากลุ่มตรวจนับจำนวนเพื่อนนักเรียนให้ครบถ้วน
     - นำแถวออกจากโรงเรียนผ่านบ้านแต่ละคน หัวหน้ากลุ่มจะอยู่บ้านสุดท้าย และนำธงไปเก็บที่บ้านของตน
     - ในวันรุ่งขึ้นหัวหน้ากลุ่มจะถือธงออกจากบ้าน และรับเพื่อนที่ออกมารอตามเส้นทางที่กำหนด โดยหัวหน้ากลุ่มจะต้องนับจำนวนของเพื่อนนักเรียนในกลุ่มด้วย
     - เมื่อถึงโรงเรียนแล้ว หัวหน้ากลุ่มต้องนำธงไปเก็บให้เรียบร้อย

     3. การใช้ธงข้ามถนน

     - การข้ามถนนบริเวณหน้าโรงเรียนที่มีทางม้าลาย โรงเรียนควรจัดให้มีธงข้ามถนนซึ่งมีขนาด 27x17 นิ้ว ด้ามธงใช้ไม้ไผ่หรือท่อเอสล่อน เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5 เซนติเมตร ความยาวอย่างน้อย 2.10 เมตร
     จัดนักเรียนเป็นผู้ถือธง 2 คนๆ ละฟากถนน โดยมีครูเวรคอยควบคุมดูแลในช่วงหนึ่งชั่วโมงก่อนโรงเรียนเข้า และหนึ่งชั่วโมงหลังโรงเรียนเลิก
     - ผู้ถือธงสังเกตความเร็วของรถที่วิ่งผ่านไปมา และให้ระยะห่างจากทางเข้ากับระยะของรถ ห่างกันอย่างน้อย  15 เมตร ก่อนนำธงลงให้ขนานกับพื้นถนน
     - เมื่อธงอยู่ในลักษณะขนานกับพื้นถนน และรถหยุดสนิทแล้ว นักเรียนจึงสามารถข้ามถนนได้ โดยข้ามอย่างเป็นระเบียบและรวดเร็ว ไม่หยอกล้อกันโดยเด็ดขาด
     - เมื่อนักเรียนทุกคนข้ามถนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ถือธงควรยกธงขึ้นไว้แนบข้างลำตัว แล้วนำไปเก็บเข้าที่
     - การใช้ธงข้ามถนน เหมาะสำหรับโรงเรียนที่อยู่ในเขตการจราจรคับคั่ง และโรงเรียนควรประสานงานการใช้ธง กับตำรวจจราจรในเขตนั้นๆ ด้วย

     4.  การจัดบริการเรื่องการใช้รถ โรงเรียนควรจัดบริการเรื่องการใช้รถ ดังนี้ 

     จัดลานจอดรถ หรือสถานที่สำหรับจอดรถรับส่งนักเรียนที่เป็นสัดส่วนและปลอดภัย โดยแยกบริเวณ ที่จอดรถโรงเรียน และที่จอดรถของผู้ปกครองนักเรียน  การจัดการจราจรในบริเวณโรงเรียนและรอบ ๆ โรงเรียน ให้เป็นระบบ ระเบียบ เพื่อความสะดวก และความปลอดภัยในการใช้รถ
     จัดให้มีบริการรถในบริเวณโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนอนุบาลหรือประถมศึกษา โรงเรียนควรจัดให้มี บริการรถรับ-ส่ง นักเรียนที่ปลอดภัย โดยให้ความสำคัญของผู้ขับขี่รถที่ผ่านการฝึกอบรมผู้ขับขี่รถนักเรียน และได้รับการคัดเลือกอย่างดีมาแล้ว คำนึงถึง รถยนต์ที่มีสภาพดี และได้รับการตรวจสอบสภาพก่อนการใช้ ทุกครั้ง นอกจากนั้นทางโรงเรียนควรฝึกและอบรมนักเรียนที่โดยสาร รถโรงเรียน เรื่องการโดยสารรถ อย่างปลอดภัยด้วย



มอเตอร์ไซค์รับจ้าง



มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ใช้พาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ สามารถบนส่งได้ที่ละไม่เกิน 1 คนเท่านั้นและมีการกำหนดราคาให้บริการตามที่กำหนด หรือตามตกตงอันเห็นสมควรแก่ทั้งสองฝ่าย
เอกลักษณ์ของวินมอเตอร์ไซค์ ผู้ทำหน้าที่จะต้องได้รับการขึ้นทะเบียน และรับเสื้อวิน แบบเสื้อ สีส้ม พร้อม ชื่อวิน ชื่อพนักงานและเบอร์เขตให้บริการ รวมทั้งยังต้องบริการหมวกกันน็อคให้กับลูกค้าอีกด้วย

รถเมล์ของ ขสมก.




รถโดยสารประจำทาง หรือที่นิยมเรียกกันว่า รถเมล์ เป็นระบบขนส่งมวลชนระบบหนึ่งที่ให้บริการบนถนน โดยมีลักษณะเป็นรถขนาดใหญ่ที่บรรทุกผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก โดยกำหนดเส้นทาง และส่วนใหญ่เรียกชื่อเส้นทางเป็นตัวเลข เช่น สาย 1 สาย 2 และมีเก็บค่าโดยสารโดยวิธีต่างๆกันไป


รถรับ-ส่ง นักเรียน




รถรับส่ง ต้องมีการจดทะเบียนเพื่อให้การปฏิบัติเกี่ยวกับการขออนุญาตและการอนุญาตให้ใช้รถในการรับจ้างรับส่งนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและถูกต้อง อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๒๒ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.๒๕๒๒  อธิบดีกรมการขนส่งทางบกจึงวางระเบียบไว้ ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบกรมการขนส่งทางบกว่าด้วยการขออนุญาตและการอนุญาตให้ใช้รถในการรับจ้างรับส่งนักเรียน พ.ศ. ๒๕๔๗

รถส่วนตัว




               รถยนต์ หมายถึง ยานพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนที่ด้วยพลังงานอย่างใดอย่างหนึ่งและถ่ายทอดลงสู่ล้อ เพื่อพาผู้ขับ ผู้โดยสาร หรือสิ่งของ ไปยังจุดหมายปลายทาง ปัจจุบัน รถยนต์โดยส่วนมากได้รับการออกแบบอย่างซับซ้อนในทางวิศวกรรม และหลากหลายประเภท ตามความเหมาะสมของการใช้งาน หรือใช้สำหรับงานเฉพาะกิจ

รถสองแถว




รถสองแถว หมายถึง รถรับจ้างที่มีที่นั่งไปตามความยาวของรถเป็น ๒ แถว



การเดินเท้าในชีวิตประจำวันให้สามารถถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัยนั้นผู้เดินเท้าจำเป็นต้องปฏิบัติดังนี้
      1.เดินทางเท้าให้เดินชิดด้านในของทางเท้าถ้าไม่มีทางเท้าให้เดินชิดริมขวาของถนน โดยเดินสวนทางกับรถและควรให้เด็กเล็กเดินด้านใน
     2.การเดินเท้าเวลากลางคืนควรสวมเสื้อสีสว่าง เช่นสีขาวหรือสีสะท้อนแสงหรือถือไฟส่องทาง
     3.เดินข้ามถนนตรงทางข้าม เช่นทางม้าลาย สะพานลอยหรืออุโมงค์ ก่อนข้ามถนนต้องมองขวา-ซ้าย และมองขวาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงข้ามด้วยความระมัดระวังและรวดเร็วแต่อย่าวิ่งเพราะอาจหกล้มเป็นอันตรายได้
     4.การข้ามถนนบริเวณทางแยกที่มีสัญญาณไฟ ต้องรอดูสัญญาณไฟก่อนข้าม
     5.ถนนที่มีเกาะกลางถนนต้องข้ามทีละครึ่งถนน แล้วไปหยุดรอที่เกาะกลางเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงข้ามต่อ
     6.เมื่อลงจากรถประจำทางอย่าข้ามถนนทันที ควรหยุดรอให้รถประจำทางผ่านไปก่อน เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงค่อยข้าม
     7.ขณะข้ามถนนไม่ควรหยอกล้อกัน ถ้ามีของตกหล่นไม่ควรหยุดเก็บ ให้ข้ามไปให้พ้นถนนก่อน
     8.การเดินเท้าแต่ละครั้งควรเผื่อเวลาสำหรับการเดินทางไว้ด้วย เพื่อจะได้ไม่ต้องรีบเร่งจนขาดความระมัดระวัง



บทที่ 3

บทที่ 3

วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า

      การสำรวจวิธีการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียน ชั้น มัธยมศึกษาปีที 4 โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์  การศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
                                    1.  กลุ่มเป้าหมาย
                            2.  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
                            3.  การเก็บรวบรวมข้อมูล
    4.  สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

กลุ่มเป้าหมาย         
     กลุ่มเป้าหมาย ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
เป็นนักเรียนชาย 
50 คน นักเรียนหญิง 50 คน   รวม   100  คน
เครื่องมือที่ใช้ในการสำรวจ   
     เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสำรวจ
แบ่งออกเป็น 2 ตอน
            ตอนที่ 1 เป็นแบบสำรวจเกี่ยวกับ สถานภาพของผู้ตอบแบบสำรวจ จำแนกเป็น
เพศ  
         ตอนที่ 2 ป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับ  1) รถสองแถว 2) รถรับ-ส่ง นักเรียน 3) วินมอเตอร์ไซค์        4) รถแท็กซี่ 5) รถส่วนตัว 6)  รถจักรยาน 7) เดินเท้า  8) รถเมล์ของ ขสมก. เป็นแบบสำรวจ  ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ เพื่อสำรวจความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมาย 

ขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือ
        เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสำรวจ ผู้ศึกษาได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
         1. ศึกษาทฤษฏี เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำข้อมูลมาเป็นแนวทางในการกำหนดกรอบโครงสร้างของแบบสำรวจ         
              2. นำข้อมูลมาวิเคราะห์เนื้อหากำหนดกรอบแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องที่ทำการศึกษา          
              3. นำแบบสำรวจที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ โดยครูที่ปรึกษาแล้ว ไปเก็บข้อมูลกับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นนักเรียนชาย 50 คน นักเรียนหญิง 50 คน 

การเก็บรวบรวมข้อมูล                                            
         การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการครั้งนี้ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลตามขั้นตอนดังนี้
              1.  นำแบบสำรวจไปขออนุญาตครูที่ปรึกษาโครงการ เพื่อแจกแบบสำรวจให้แก่นักเรียนโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล                            
              2. ผู้ศึกษาได้เก็บรวบรวมข้อมูลโดยแจกแบบสำรวจด้วยตนเอง จำนวน 100 ฉบับได้กลับคืนมา จำนวน 100  ฉบับ  คิดเป็นร้อยละ  100     


สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล  
        ข้อมูลที่ได้รับจากการศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยนำมาวิเคราะห์ดังนี้                                  
            1. ข้อมูลที่ได้รับจากตอนที่ 1 เกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม จำแนกเป็น เพศ  วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ  

            2.  ข้อมูลที่ได้จากตอนที่ 2  การสำรวจวิธีการเดินทางมาโรงเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ยและค่าร้อยละ โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป 

บทที่ 5




 
บทที่ 5
สรุป  อภิปรายผล  และข้อเสนอแนะ

              การสำรวจการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์  ผู้ศึกษาได้สรุปผล อภิปรายผลและข้อเสนอแนะตามลำดับดังนี้

             สรุปผลการศึกษาค้นคว้า
          การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาค่านิยมการใช้แอพพลิเคชั่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ว่าใช้แอพพลิเคชั่นใดมากที่สุด  โดยสำรวจความคิดเห็น1) รถสองแถว 2) รถรับ-ส่ง นักเรียน 3) วินมอเตอร์ไซค์ 4) รถแท็กซี่ 5) รถส่วนตัว 6)  รถจักรยาน 7) เดินเท้า 8) รถเมล์ของ ขสมก.  กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นนักเรียนชาย 50 คน นักเรียนหญิง 50 คน เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่จำนวน 100คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เป็นแบบสำรวจ ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบเลือกตอบ เพื่อสำรวจความคิดเห็น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ โดยใช้คอมพิวเตอร์โปรแกรมสำเร็จรูป 
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์เดินทางมาโรงเรียนโดยการ นั่งรถสองแถว คิดเป็นร้อยละ 53 รถรับ-ส่ง นักเรียน คิดเป็นร้อยละ 0 วินมอเตอร์ไซค์ คิดเป็นร้อยละ 15 รถแท็กซี่ คิดเป็นร้อยละ 2 รถส่วนตัว คิดเป็นร้อยละ 22  รถจักรยาน คิดเป็นร้อยละ เดินเท้า คิดเป็นร้อยละ 2 รถเมล์ของ ขสมก. คิดเป็นร้อยละ อื่นๆ คิดเป็นร้อยละ 2

อภิปรายผลการวิจัย
              จากการสำรวจการเดินทางมาโรงเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์ ผู้ศึกษาจึงอภิปรายผลการศึกษา ดังนี้
              ผลการศึกษาพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เดินทางมาโรงเรียนในวิธีการ นั่งรถสองแถว มากที่สุด ซึ่งมีค่าร้อยละ สูงถึง 53  นั่นอาจเป็นเพราะว่า การนั่งรถสองแถว เป็นวิธีที่ง่ายง่าย สะดวก รวดเร็ว ในการเดินทาง  การนั่งรถสองแถวมีข้อดีในเรื่องความสะดวก สามารถหาได้ง่าย และราคาถูก ในส่วนของ รถส่วนตัว มีค่าร้อยละ สูงถึง 22 นั่นอาจเป็นเพราะว่า การนั่งรถส่วนตัว นั้นสะดวกสบาย ได้นั่งรถไปพร้อมกับคนในครอบครัว และมีความเป็นส่วนตัว จึงทำให้มีคนเดินทางมาโรงเรียนโดยการนั่งรถส่วนมาก ในส่วนของรถรับ-ส่ง นักเรียน วิธีนี้ค่อยไม่มีคนเดินทางมาโรงเรียน อาจเป็นเพราะ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ต้องการความเป็นส่วนตัว และต้องการเดินทางมาโรงเรียนโดยตนเองมากกว่าที่จะนั่งรถรับ-ส่ง ทำให้ไม่ค่อยมีนักเรียน เดินทางมาโรงเรียนโดยการนั่งรถรับ-ส่ง มากนัก

             ข้อเสนอแนะ
         การเดินทางมาโรงเรียนไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด เราต้องมีสติ มีความระมัดระวัง และไม่ประมาท ถ้าหากเราสามารถทำได้ เราก็จะลดอุบัติเหตุในการเดินทางได้
         การเดินทางโดยรถต่างๆ ให้ความสะดวก รวดเร็วในเวลาเร่งรีบ แต่ถ้าหากเราไม่ระมัดระวังข้อดีก็อาจกหลายเป็นข้อเสียได้ คือ ถ้าหากเราเร่งรีบมากไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการเดินทางได้



บทที่ 4

บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล


ตารางที่ 1   แสดง จำนวน และ ร้อยละ สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามจำแนกตาม  เพศ ระดับชั้น                        สถานะ 

จำนวน ( N )
ร้อยละ
1. เพศ
            ชาย
            หญิง   
            รวม

 50

50
100

50.00
50.00
100.00
2. ระดับชั้น
            มัธยมศึกษาปีที่ 4
            รวม

100
100

100.00
100.00
3.สถานะ
              นักเรียน
              รวม                                                                          

100
100

100.00
100.00


ตารางที่ 2  แสดจำนวนและร้อยละ  การเดินทางมาโรงเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4                                   โรงเรียนอ้อมน้อยโสภณชนูปถัมภ์       
ข้อที่
การเดินทางมาโรงเรียน
N
ร้อยละ
ลำดับ
1
รถสองแถว
53
53.00
1
2
วินมอเตอร์ไซค์
15
15.00
3
3
รถเมล์ของ ขสมก.
3
3.00
4
4
รถส่วนตัว
22
22.00
2
5
เดินเท้า
2
2.00
5
6
รถแท็กซี่
2
2.00
5
7
รถรับ-ส่ง
0
0.00
7
8
รถจักรยาน
1
1.00
6
9
อื่นๆ
         2
             2.00
5
   1.รถซาเล้ง

   2.รถสิบล้อ

รวม
100
100.00